• ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ในกาแล็กซีทางช้างเผือก ทีี่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มแก๊ส เมื่อกลุ่มแก๊สรวมตัวอาจจะมีแก๊สบางส่วนหลงเหลือกลายเป็นฝุ่นผงล้อมรอบดวงอาทิตย์อยู่ เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มแก๊สนี้ก็จะรวมตัวกันเกิดเป็นดาวบริวารต่างๆ ขึ้น
• กลุ่มแก๊สที่รวมตัวกันเกิดเป็นดาวบริวารนี้มักจะอยู่ในระนาบที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากเกิดจากการรวมตัวกันของแก๊สกลุ่มเดียวกัน
• ปัจจุบันดวงอาทิตย์มีดาวเคราะห์บริวาร 8 ดวง และมีดาวเคราะห์แคระบริวาร 1 ดวง
นิยามของดาวเคราะห์
• กำหนดโดยสมาพันธ์ดาราศาสตร์ระหว่างประเทศ มีสมบัติ 3 ข้อ
1. มีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์
2. มีมวลมากพอที่จะเกิดสมดุลทางอุทกสถิตศาสตร์ทำาให้มีรูปร่างกลม
3. มีวงโคจรของตนเองโดยเป็นวัตถุหลักในวงโคจร
องค์ประกอบของระบบสุริยะ
• ดาวอาทิตย์ มีลักษณะสำคัญดังนี้
– เป็นดาวฤกษ์สีเหลืองชนิดสเปกตรัม G อุณหภูมิพื้นผิวประมาณ6,000 K
– ดวงอาทิตย์คือผู้ให้พลังชีวิตแก่โลก
– สิ่งที่ได้จากดวงอาทิตย์ ได้แก่ พลังงาน อนุภาคโปรตอนและอิเล็กตรอน ซึ่งเรียกว่า ลมสุริยะ
– ลมสุริยะที่มายังโลกจะถูกแรงแม่เหล็กจากสนามแม่เหล็กกระทำส่งผลให้เกิดแสงเหนือแสงใต้ ไฟฟ้าดับที่ประเทศขั้วโลก รวมถึงการสื่อสารขัดข้อง
สะเก็ดดาว
• เป็นวัตถุขนาดเล็กไม่มีแสงสว่าง แบ่งเป็น
1. ดาวตก หรือผีพุ่งไต้ เศษหินและโลหะขนาดไม่ใหญ่มาก ส่วนใหญ่เผาไหม้หมด
2. อุกาบาต เผาไหม้ไม่หมด
3. วัตถุในแถบคอยเปอร์ เป็นวัตถุที่อยู่ถัดจากดาวเนปจูนออกไปได้แก่ ดาวเคราะห์แคระ ดาวอีริส มีสมบัติเหมือนดาวเคราะห์น้อย
การแบ่งกลุ่มดาวเคราะห์ ตามวงโคจร
• แบ่งดาวเคราะห์ออกได้เป็น 2 กลุ่ม
• ดาวเคราะห์วงใน ได้แก่ ดาวเคราะห์ที่มีรัศมีวงโคจรใกล้กว่าโลก คือดาวพุธและดาวศุกร์ ดาวเคราะห์วงในจะปรากฏอยูู่ด้านเดียวกับดวงอาทิตย์เสมอเมื่อสังเกตจากโลก ดังนั้นจะเห็นเฉพาะในเวลาเช้ามืด
หรือหัวค่ำเท่านัั้น
• ดาวเคราะห์วงนอก ได้แก่ ดาวเคราะห์ที่มีรัศมีวงโคจรมากกว่าโลก คือ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน และดาวเคราะห์แคระพลูโต ดาวเคราะห์วงนอกอาจจะปรากฏด้านตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ เมื่อสังเกตจากโลก
การแบ่งกลุ่มดาวเคราะห์ ตามองค์ประกอบ
• แบ่งดาวเคราะห์ออกได้เป็น 2 กลุ่ม
• ดาวเคราะห์หิน (ดาวเคราะห์ชั้นใน) ได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคารซึึ่งมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นหินทำให้ความหนาแน่นเฉลี่ยอยู่ทีี่ 3.9-5.5 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร
• ดาวเคราะห์แก๊ส (ดาวเคราะห์ชั้นนอก) ได้แก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ซึ่งมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นแก๊สไฮโดรเจน และฮีเลียม ทำาให้มีความหนาแน่นต่ำา ระหว่าง 0.7 ถึง 1.7 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร
• สำหรับดาวเคราะห์แคระพลูโต อาจจัดแยกออกเป็นดาวเคราะห์น้ำแข็งเนื่องจากองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นแก๊สมีเทนและคาร์บอนมอนอกไซด์ในรูปน้ำแข็ง
ดวงอาทิตย์
1. แก่น
2. เขตการแผ่รังสี
3. เขตการพาความร้อน
2. เขตการแผ่รังสี
3. เขตการพาความร้อน
บรรยากาศที่ห่อหุ้มดวงอาทิตย์
1. ชนโตสเฟยร อุณหภูม 5,800 K
2. ชั้นโครโมสเฟียร์อุณหภูมิ 25,000 K
3. ชั้นคอโรนา อุณหภูมิ 2,000,000 K
1. ชนโตสเฟยร อุณหภูม 5,800 K
2. ชั้นโครโมสเฟียร์อุณหภูมิ 25,000 K
3. ชั้นคอโรนา อุณหภูมิ 2,000,000 K
ลมสุริยะ และพายะสุริยะ
• ลมสุริยะ คือ แก๊สที่ร้อนจนอะตอมแตกตัวเป็นอิเล็กตรอนและไอออน (p+e) จากชั้น คอโรนา ความเร็ว 200-900 km/h
• พายุสุริยะ มักเกิดจากจุดมืดดวงอาทิตย์ มีความรุนแรงมากกว่าลมสุริยะ ใช้เวลาเดินทางมาถึงโลก 20-40 ชม.
• จุดมืดดวงอาทิตย์มักเกิดทุกๆ 11 ปี
• ลมสุริยะ คือ แก๊สที่ร้อนจนอะตอมแตกตัวเป็นอิเล็กตรอนและไอออน (p+e) จากชั้น คอโรนา ความเร็ว 200-900 km/h
• พายุสุริยะ มักเกิดจากจุดมืดดวงอาทิตย์ มีความรุนแรงมากกว่าลมสุริยะ ใช้เวลาเดินทางมาถึงโลก 20-40 ชม.
• จุดมืดดวงอาทิตย์มักเกิดทุกๆ 11 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น